ครม. พิจารณา ควรจะดำเนินการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ หรือไม่

นายวิจิตร ศรีสอ้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ ๖/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๐ ที่ห้องประชุมอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ


รมว.ศธ.เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ เป็นการเตรียมข้อมูลสำหรับเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาว่า ควรจะดำเนินการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ หรือไม่ โดยที่ประชุมได้เสนอหลักการในประเด็นต่างๆ ดังนี้
>จะให้ทุนแก่นักเรียนเรียนดี แต่ยากจน ที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยยึดเขตพื้นที่การศึกษา ๑๗๘ เขตๆ ละ ๒ คน รวม ๓๕๖ คน และทุนสายอาชีวศึกษาจังหวัดละ ๑ คน รวม ๗๖ คน รวมทั้งสิ้น ๔๓๒ คน
>ต้องไปเรียนในสาขาที่เป็นความต้องการของท้องถิ่น และไปเรียนในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กเก่งไปเรียนในประเทศที่เก่ง และได้วิชาการ รวมทั้งภาษามาด้วย
>เป็นทุนที่ไม่มีข้อผูกมัด แต่มีเงื่อนไขว่าจบแล้ว จะต้องกลับมาทำงานในประเทศไทย
>จะไม่มีทุนเพื่อให้ศึกษาในประเทศเหมือน ๒ รุ่นที่ผ่านมา เนื่องจากประเมินผลแล้วพบว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดทุนในลักษณะนี้ให้เรียนในประเทศ เพราะมีทุนอื่น รวมทั้งมีเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นการประกันโอกาสบุคคลเหล่านี้อยู่แล้ว

รมว.ศธ. ได้กล่าวถึงกรณีรับทุนไปศึกษาแล้ว หากมีเหตุให้เรียนไม่ได้ ก็จะยุติการให้ทุน เพราะถือว่าเมื่อได้รับทุน ก็มีสิทธิ์เลือกประเทศและสาขาที่ต้องการจะศึกษาด้วยตนเอง หากเรียนไม่จบหรือขอยุติการศึกษา ก็ถือว่าเป็นการยุติทุน ส่วนการเลือกมหาวิทยาลัยนั้น ก็จะอนุญาตให้ไปเรียนในสถาบันที่เป็นที่รับรอง และมีชื่อเสียงในสาขานั้นๆ โดยจะเขียนเงื่อนไขไว้ รวมทั้งใช้กระบวนการแนะนำเมื่อสมัคร

ศธ.จะนำเสนอต่อ ครม.ว่า หากจะมีทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ ก็ให้เริ่มในปีงบประมาณ ๒๕๕๑ เพื่อให้มีการเตรียมการไปศึกษาได้ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๑ โดยจะมีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอุดหนุน ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนเงิน แต่จะไม่มากเท่าเดิมเพราะจำนวนทุนลดลง

รมว.ศธ.กล่าวสรุปว่า ได้มีการประเมินผลการศึกษาของนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๑ จำนวน ๖๒๘ คน ที่ไปเรียนใน ๑๕ ประเทศ คือ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ออสเตรีย สเปน เดนมาร์ก อินเดีย สวีเดน มาเลเซีย อียิปต์ และอิตาลี ผลปรากฏว่า เรียนได้ดีเด่น ๒๐% ของจำนวนเด็ก ปานกลาง ๕๐% ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับการส่งนักเรียนไปเรียนในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ส่วนอีก ๓๐% อาจเรียนไม่จบ หรือมีปัญหา และต้องกลับมาเรียนในประเทศ เพราะทุนรุ่นนี้ยังกลับมาเรียนในประเทศได้ ดังนั้น หากมีการเตรียมตัวด้านภาษาให้มากพอก่อนการเดินทาง ก็อาจจะทำให้จำนวนผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงกว่านี้ และคุ้มค่าที่จะลงทุน

สำหรับนักเรียนทุนในรุ่นที่ ๒ จำนวน ๗๗๓ คน ใน ๑๖ ประเทศ (รวมแคนาดา) ขณะนี้กำลังเรียนภาษาเป็นส่วนใหญ่ และมหาวิทยาลัยได้ตอบรับให้เข้าศึกษาแล้วจำนวน ๑๘๗ คน.


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี - 17 ต.ค.2550
http://www.moe.go.th

0 ความคิดเห็น: