การ์ตินี มะเหาะ เด็กทุนโอดอส "เรียนจบกลับไปพัฒนาชาติไทย"

อีกไม่กี่วันจะครบกำหนด1 เดือนที่กระทรวงศึกษาธิการขอให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน (ก.พ.)รวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นแรก ไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ เพื่อนำไปปรับปรุงเงื่อนไขรุ่นที่ 3 ที่เปลี่ยนชื่อเป็นทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โดยอาจกำหนดให้นักเรียนทุนต้องเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยที่ดีเด่นในสาขานั้น ๆ เพื่อให้คุ้มค่ากับทุนที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

วันนี้"คมชัดลึก" ขอนำเสนอมุมมอง - การ์ตินี มะเหาะ หรือน้องนี ศิษย์เก่าโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน จ.นราธิวาส วัย 23 ปี นักเรียน1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นแรกไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาตะวันออกกลาง American University (AUC) เริ่มเรียนวิชาในชั้นปีที่ 1 ในวันที่ 5 กันยายน จากนี้ไปอีก 4 ปี จะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบทั้งหมด 120 หน่วยกิต

ทุนสำหรับนักศึกษาที่ได้เดือนละ900 ดอลลาร์สหรัฐ ในแต่ละเดือนก็ใช้จ่ายอย่างประหยัด และส่วนมากก็ไม่ได้ใช้เงินซื้ออะไรที่ฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว จ่ายค่าที่พักประมาณ 363 ดอลลาร์สหรัฐ ค่ากินอย่างเดียว 150 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วเหลือเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่งซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะเก็บไว้เป็นทุนเรียนต่อสูงๆ และเก็บไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน และหาประสบการณ์อียิปต์ เรียนจบแล้วจะกลัปไปทำงานที่ประเทศไทยช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าสืบไปอย่างแน่นอน น้องนีกล่าว

นักเรียนทุนโอดอสรุ่นแรกทุกคนจะต้องเรียนภาษาอังกฤษ2 ปีก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเรียนในมหาวิทยาลัย แต่สำหรับน้องนี เธอต้องเรียน 3 ปี เพราะแต่ละวันเรียนเพียง 2 ชั่วโมง 30 นาที ประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เท่านั้น จึงต้องใช้เวลาเรียนนานมากกว่าคนอื่น ขณะเดียวกันก็เรียนภาษาอาหรับไปด้วย เพราะต้องใช้ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทุนการศึกษาที่ใช้ไปกับการเรียนและการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศถึงแม้จะได้มาฟรีๆ แต่เธอใช้จ่ายอย่างประหยัดรอบคอบเสมอ เพราะพ่อแม่มีลูก3 คน จึงต้องมีภาระหนักเลี้ยงดูลูกถึง 3 เท่า เธอเป็นพี่สาวคนโตจึงต้องประหยัดอดออมเป็นตัวอย่างที่ดีแก่น้องๆและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทูตไทยในกรุงไคโร เธอจัดสรรการใช้เงินทุนที่ได้รับอย่างคุ้มค่าที่สุด

หนูถูกพ่อแม่สอนให้มัธยัสถ์ตั้งแต่เด็กๆให้เป็นคนประหยัดมากๆ รู้จักเก็บเงิน ถ้าเหลือจากไปโรงเรียนแต่ละวัน ก็หยอดกระปุกออมสินเอาไว้ เวลาอยากได้สิ่งของที่อยากได้จะได้ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ เพราะพ่อแม่มีภาระต้องเลี้ยงดูน้องอีกตั้ง 2 คน ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ตอนเรียนมัธยม ที่โรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน จ.นราธิวาส ได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 20 บาท กินข้าวกลางวัน 10 บาท เหลืออีก 10 บาท ก็กินขนมบ้าง เหลือจากนั้นก็เก็บออมเอาไว้ใช้ยามจำเป็น นีกล่าวถึงคำสอนที่จำจนขึ้นใจ

เธอยังน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงแนวคิดความพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต มีแค่ไหนใช้แค่นั้นไม่โลภมาก รู้จักตัวเองก็ไม่เดือดร้อน ใช้อย่างพอเพียง พอมีพอกิน ตามรอยพ่อหลวงไม่ผิดแน่นอน นี ย้ำหนักแน่น เพราะได้ทดลองจนประจักษ์ผลและเธอก็นำเอาไปใช้ในการดำรงชีวิตในต่างแดนด้วย น้องนีบอกว่าหลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาตะวันออกกลางแล้ว เธอจะใช้เงินส่วนที่เก็บออมอย่างมัธยัสถ์จากทุนโอดอสที่ได้รับในแต่ละเดือนเพื่อสานฝันเรียนต่อปริญญาโทในสาขาเดิมให้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ เพราะผู้เรียนด้านนี้น้อยมาก หากเธอเรียนจบแล้ว จะกลับไปทำงานที่ประเทศไทย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศอียิปต์ให้ดียิ่งขึ้น

ประสบการณ์มากมายในต่างแดนทำให้น้องนีแข็งแกร่ง และเอาตัวรอดได้ โดยเฉพาะการตรงตอเวลา เพราะที่มหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่จะสอนให้เป็นคนตรงเวลามาสาย 1 วินาทีก็ถือว่าสาย ครูจะเช็คขาดทันที เพราะต้องการสอนให้เป็นคนตรงต่อเวลา จากวันวารจนถึงวันนี้ เธอก็ยังน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความพอเพียง และคำสอนของพ่อแม่ การประหยัดมัธยัสถ์ เป็นหลักมั่นในการดำรงชีวิต และจะยึดหมั่นคำสอนอันดีงามนี้ไว้ต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่


http://www.komchadluek.net

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ