ศธ.ตั้งทีม.ดูแลเด็กทุนโอดอสเบี้ยวเงื่อนไขรับทุน

“จุรินทร์” มอบ ปลัด .ศธ. ตั้งทีมศธ.ดูแลเด็กทุนโอดอสเบี้ยวไม่ยอมทำตามเงื่อนไขรับทุน เตรียมขอครม.เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขรับทุนใหม่ให้รัดกุมขึ้น พร้อมของบประมาณอักฉีดโครงการนี้ถึงปี 56 เท่านั้น งดให้ทุนนักเรียนที่ไม่จบในเวลาที่กำหนด

(2พ.ย.)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการ 1 อำเภอ 1 ทุน ว่า ที่ประชุมหารือถึงการดำเนินการกับนักเรียนทุนที่จงใจไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข การรับทุนซึ่งกำหนดให้นักเรียนทุนไม่ต้องทำงานใช้ทุนแต่ต้องกลับประเทศไทย หลังเรียนจบและต้องเรียนจบภายในระยะเวลา 7 ปี อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีนักเรียนทุนทั้ง 2 รุ่นจำนวนหนึ่ง ไม่ยอมกลับประเทศไทยหลังเรียนจบ หรือบางส่วนก็ลาออกจากทุนก่อนเรียนจบเพียงเล็กน้อยเพื่อหวังหลีกเลี่ยง เงื่อนไขให้กลับประเทศไทยหลังเรียนจบ ขณะที่นักเรียนทุนอีกหลายรายต้องขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการรับทุนโดยขอกลับมา เรียนในประเทศไทยแทน เพราะเรียนที่ต่างประเทศไม่ไหว ทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุด มอบปลัด.ศธ.เป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สำนักงบประมาณ ก.พ. ก.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อหาทางดำเนินการกับนักเรียนทุน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นนักเรียนทุนที่เรียนจบแล้ว แต่ไม่ยอมกลับประเทศไทย หรือ จงใจลาออกจากการรับทุนก่อนจบ เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับประเทศไทย ก็จะให้คณะทำงานไปดูว่ามีกฎหมายหรือระเบียบใดที่สามารถนำมาบังคับให้ นักเรียนทุนเหล่านี้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของทุน ในส่วนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก.ต.เสนอว่า อาจใช้มาตรการไม่ออกพาสปอร์ตเล่มใหม่ให้กับเด็ก ซึ่งจะมีผลให้นักเรียนทุนไม่สามารถอยู่ต่างประเทศได้

ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นนักเรียนทุนที่ขอเปลี่ยนแปลงสัญญารับทุน เช่น นักเรียนทุนที่เรียนในต่างประเทศไม่ไหว ก็จะต้องทำเรื่องขออนุมัติบอร์ดกองทุนกลับมาเรียนในประเทศไทยแทน เพราะฉะนั้นจะให้คณะทำงานใช้โอกาสที่เด็กเปลี่ยนแปลงสัญญาบังคับให้เด็กต้อง ทำสัญญารับทุนใหม่ ที่กำหนดให้ผู้รับทุน รับผิดชอบต่องบประมาณที่เสียไปมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้คณะทำงานจะต้องไปยกร่างเงื่อนไขของทุนขึ้นมาใหม่ และเสนอ ครม. เพื่อขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกองทุน เนื่องจากเงื่อนไขการรับทุนถูกกำหนดออกมาเป็นมติ ครม.

อย่างไรก็ตาม ในเงื่อนไขใหม่ จะมีการกำหนดชัดเจนว่า เด็กที่ออกกลางคันหรือเรียนไม่จบจะต้องรับผิดชอบอย่างไร รวมทั้งกำหนดด้วยว่า เด็กที่ขอเปลี่ยนสายการเรียนหรือขอกลับมาเรียนในประเทศ เพราะเรียนไม่ไหว ซึ่งจะต้องทำให้เสียเวลาเริ่มต้นเรียนใหม่มากขึ้น จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างไร รวมทั้ง จะมีการจัดการทางกฎหมายอย่างไรกับเด็กที่ไม่สามารถเรียนจบภายใน 7 ปีได ส่วนกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่เรียนจบ แต่ต้องการเรียนต่อระดับป.โท ด้วยทุนตัวเอง จะให้คณะทำงานไปดูว่ากำหนดเงื่อนไขต่อเด็กกลุ่มนี้อย่างไร ที่สำคัญจะมีการเสนอ ครม. ขอใช้งบประมาณสนับสนุนโครงการนี้ถึงปี 56 สรุปแล้วโครงการนี้ใช้งบประมาณสนับสนุนตั้งแต่ปี 51-56 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,775 ล้านบาท

อนึ่ง โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 1 เริ่มตั้งแต่ปี 2549 มีจำนวน 921 คน รุ่น 2 จำนวน 915 คน รวม 1,836 คน จำนวนนี้เลือกเรียนต่างประเทศจำนวน 1,478 คน สำเร็จการศึกษาไปแล้ว 80 คน ออกจากทุน 29 คน ถูกให้กลับมาเรียนในไทย 227 คน ปัจจุบัน เหลือนักเรียนทุนในต่างประเทศ จำนวน 1,142 คน ส่วนนักเรียนที่เลือกเรียนในประเทศไทยนั้น รวม 2 รุ่น 358 คน ข้อมูล ณ 31 ก.ค. สำเร็จการศึกษาไปแล้ว 157 คน พ้นสภาพ 15 คน เพราะเกรดไม่ดี ความประพฤติไม่ดี ไม่มารายงานตัว 3 คน

ที่มา : http://www.komchadluek.net

“จุรินทร์” จวกเด็ก 1 ทุน 1 อำเภอซิกแซก ลาออกกลางคัน ชิ่งไม่กลับไทย หวังขุดทองต่างประเทศ

จุรินทร์” จวกเด็ก 1 ทุน 1 อำเภอ ซิกแซก เรียนจบไม่กลับบ้านเกิดหวังขุดทองต่างประเทศ งัดกลยุทธ์ลาออกกลางคันเพื่อไม่ต้องกลับไทย ขอเรียนต่อโท-เอก ด้วยทุนตัวเอง ย้ำรัฐทุ่มงบสร้างคนพัฒนาประเทศ สั่งปลัด ศธ.หาช่องดัดหลังเด็กทุน เตรียมเสนอ ครม.แก้เงื่อนไข ดึงเด็กทดแทนคุณชาติ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ ครั้งที่ 4 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ โดยมีผู้ที่เข้ารับทุนจำนวนหนึ่ง เมื่อได้ทุนแล้วไม่กลับประเทศไทย ลาออกกลางคัน และมีการขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิม เช่น เงื่อนไขที่กำหนดไว้ต้องเรียนจบภายใน 7 ปี เมื่อเรียนจบแล้วต้องกลับมาทำงานในประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาในประเด็นที่จะนำไปสู่การแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ข้อสรุปบ้างส่วน ประเด็นที่ 1 เดิมกำหนดไว้ในเรื่องของการใช้เงินก็คือ นักเรียนทุนรุ่นที่ 1 เรียนจากทุนหวย 2 ตัว หวย 3 ตัว ต่อมามีปัญหาการใช้เงินจากทุนหวย จึงให้ใช้เงินจากงบประมาณปกติแทน โดยที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการกำหนดที่ชัดเจนว่าจะใช้งบประมาณสนับสนุน ไม่เกินปี 2556 เพื่อให้เด็กรุ่น 1 และรุ่น 2 เรียนจบ หากใช้งบประมาณปกติตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2556 จะใช้เงินประมาณ 7,552 ล้านบาท

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ยังมีประเด็นหรือปัญหาที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ตนได้มอบการบ้านให้คณะทำงาน โดยมี นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน มีผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กลับไปเอาคำตอบกลับมา

สำหรับโจทย์ที่ได้มอบไปมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่มที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

กลุ่ม ที่ 1 กลุ่มที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขเดิม อย่างเรียนจบแล้วไม่กลับประเทศไทย ก็ให้คณะทำงานไปดูว่า จะสามารถบังคับ แก้กฎระเบียบ กฎหมาย อะไรได้บ้าง เพื่อมาเทียบเคียงให้นักเรียนทุนปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่าสามารถใช้มาตรการเรื่องของการออกพาสปอร์ต โดยไม่ออกพาสปอร์ตให้เมื่อเล่มเก่าหมดอายุ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

กลุ่ม ที่ 2 กลุ่มที่ลาออกกลางคัน ให้คณะทำงานไปดูว่า จะมีกฎหมาย หรือระเบียบใด ที่ใกล้เคียงที่จะมาดำเนินการได้กลับกลุ่มคนที่ออกกลางคัน โดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการบังคับให้กลับมาประเทศไทย เช่น เขาเรียน 4 ปี พอเรียนไป 3 ปีครึ่ง ก็ขอลาออกกลางคัน ถือว่าพ้นสภาพ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกลับประเทศไทย การหลีกเลี่ยงลักษณะนี้เราจะทำอย่างไรให้เขากลับมาประเทศไทยตามวัตถุประสงค์ เดิม

กลุ่ม ที่ 3 คือ กลุ่มที่ ก.พ.ระงับการให้ทุน เรียนต่อในต่างประเทศ แล้วให้กลับมาเรียนต่อในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มนี้จะเรียนไม่จบตามปริมาณหน่วยกิตที่ ก.พ.กำหนด เช่น ปี 1 จะต้องเรียนผ่านไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ปี 2 ร้อยละ 70 ตามที่กำหนด ซึ่ง ก.พ.ให้กลับมาเรียนต่อประเทศไทยแทนแต่ไม่ได้ระงับการให้ทุน อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้จะต้องมีคำตอบกลับมาว่าจะดำเนินการในลักษณะไหนอย่างไร

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 จะเป็นไปตามเงื่อนไขใหม่ ที่จะขอแก้ไข มติ ครม. และจะมาเข้าเงื่อนไขเมื่อเขาผิดสัญญา เช่น เรียนไม่จบภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำผิดเงื่อนไขอื่นๆ ต่อไปนี้จะให้เขามาทำสัญญาใหม่ ส่วนเงื่อนไขใหม่ที่จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง อีกประเด็นเช่น 1.ถ้าเรียนจบแล้วไม่กลับประเทศไทย จะทำอย่างไร 2.ลาออกกลางคัน 3.แม้กลับประเทศไทยแล้ว เขาจะต้องรับผิดต่อค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่เพิ่มขึ้นจากการที่เขาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างไร เช่นเรียนใช้เวลานาน เขาต้องมีภาระผูกพัน เมื่อกลับประเทศไทยแล้วทำงานอย่างน้อยกี่ปี เพื่อให้คุ้มค่ากับงบประมาณแผ่นดินที่สูญเสียไป ฯลฯ หรือบางคนเรียนจบปริญญาตรีตามเงื่อนไข แต่ขอไปเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกในต่างประเทศ ด้วยทุนตัวเอง จะมีการปรับปรุงเงื่อนไขอย่างไร สิ่งเหล่านี้คณะทำงานจะต้องไปหาคำตอบกลับมา ซึ่งการประชุมครั้งนี้คงได้มีการพิจารณา แล้วนำไปเสนอ ครม.ต่อไป

ถามว่าโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ มีปัญหาแล้วจะมี รุ่นที่ 3 หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ขณะนี้ให้ชะลอไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้ยกเลิกโครงการ 1 ทุน 1อำเภอ เพียงแต่เรามีคำนวณค่าใช้จ่ายพบว่าปี 2551-2556 รัฐต้องแบกภาระ 7,552 ล้านบาท นี่ค่าใช้จ่ายเพียงโครงการเดียว

“มี กลุ่มที่ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข แต่มีช่องว่างที่ต้องหาคำตอบ เช่น เรียนจบแล้วไม่กลับประเทศไทย ถามว่าจะทำอย่างไร เพราะเสียงบประมาณไปเปล่าๆ และเขาทำผิดเงื่อนไข อีกกลุ่มเขากำลังจะเรียนจบแต่เขาขอลาออกกลางคัน กลายเป็นว่าเขาพ้นภาระรับผิดชอบ ไม่ต้องกลับไทย ตรงนี้เราจะมีมาตรการอะไรมั้ยเพื่อดำเนินการให้คุ้มค่ากลับเงินที่เสียไป นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ทำผิดเงื่อนไขแล้วขอแก้เขามาเป็นรายคน และที่ประชุมจะต้องนี้ต้องพิจารณาตลอด อาทิ เรื่องการขอขยายเวลาเรียนต่อ ขอเปลี่ยนคณะ เปลี่ยนมหาวิทยาลัย ซึ่งตรงนี้เขาทำผิดเงื่อนไข ต่อไปเขาจะต้องทำสัญญาใหม่” รมว.ศธ.ตั้งคำถาม

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ต้องมีเงื่อนไขไว้ด้วยว่า หาเรียนจบแล้วเขาไม่กลับเมืองไทย ลาออกกลางคัน จะทำอย่างไรเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หากกลับมาแล้วจะต้องทำงานชดใช้ประเทศกี่ปี เพราะเงื่อนไขเดิมไม่กำหนดไว้เลย เพราะมีบางรายกลับเพียงเดือนเดียวก็ถือว่ากลับแล้ว ในที่สุดเขากลับไปทำงานเมืองนอก ในที่สุดไทยก็เสียงบประมาณเปล่าๆ เลย สำหรับสร้างคนไปทำงานเมืองนอกและประเทศก็ไม่ได้อะไรเลย รัฐส่งให้เรียนเพื่อต้องการให้มาพัฒนาประเทศ นอกจากนี้มีกลุ่มที่เรียนจบแล้ว แต่ขอเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอก จะต้องมีการกำหนดเงื่อนไขผูกพันอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องเข้าที่ประชุม ครม.

ที่มา : http://manager.co.th - 2 พฤศจิกายน 2552