ประชาสัมพันธ์จัดค่ายโอดอสแค็มป์ ครั้งที่ 2
สำหรับกิจกรรมค่ายโอดอสเพื่อน้องในปีนี้(โครงการสำหรับกลางปีหน้า) กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ สรุปแนวคิดเห็นสำหรับในการกิจกรรมต่างๆ โดยเปิดให้บรรดาเพื่อนๆชาวโอดอสทั้งหลายทั้งรุ่นที่1รุ่นที่2 จากทุกที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น หากใครมีความสนใจสามารถสอบถาม เสนอแนะข้อมูลในลักษณะต่างๆเพิ่มเติมกันได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้
http://www.odos-online.com
20 คำถามกับทุนต่างประเทศ
ถ้าหมายถึงทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการศึกษา มีทั้งประเภททุนเต็มจำนวน (Full Scholarship) และทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วน มีทั้งทุนที่มีเงื่อนไขว่าต้องรายงานผลการเรียนและทุนที่ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น
2. ควรเริ่มต้นในการขอทุนยังไง
ก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่าตัวเรามีความสนใจในการเรียนในด้านใด และจะกลับมาทำอะไร วางเป้าหมายไว้ให้ดี ต่อจากนั้นมองหาประเทศที่ต้องการเข้าเรียนและศึกษารายละเอียดทุนต่าง ๆ ว่ารัฐบาลของประเทศนั้น ๆ ให้ทุนอะไรบ้าง ไม่ว่าจากทางมหาวิทยาลัย เว็บไซต์ นิตยสารการศึกษา เป็นต้น ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและกฎเกณฑ์ที่ทุนตั้งไว้ให้เรียบร้อย
3. ขั้นตอนการคัดเลือกมีอะไรบ้าง
ในการสมัครขอรับทุน ขั้นแรกเมื่อส่งใบสมัครจะถูกพิจารณาก่อนว่าคุณสมบัติตรงตามที่ตั้งไว้หรือไม่ หลังจากนั้นจะมีการจัดสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ แล้วจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทุนการศึกษานั้น ๆ โดยจะตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาคุณสมบัติผู้รับทุนจากผลการสอบและประวัติการศึกษา รวมถึงผลงานทางวิชาการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกอาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไข
4. อยากสมัครทุน DAAD ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการสมัครทุนนี้ คือ ใบสมัครพร้อมรูปถ่าย (ดาวน์โหลดใบสมัครได้จาก www.bankgkok.diplo.de) ประวัติส่วนตัวเขียนด้วยลายมือ เป็นเรียงความ ประวัติส่วนตัว (พิมพ์) แผนการศึกษาหรือแผนการวิจัย ใบระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript) ใบรับรองการเรียนภาษาเยอรมัน จดหมายรับรอง 2 ฉบับจดหมายรับรองการจ้างงาน จดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยในเยอรมนี ถ้าด้านแพทยศาสตร์ต้องมีใบประกอบโรคศิลปะ เอกสารทั้งหมดเตรียมไว้ 4 ชุด เป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน ยกเว้นประวัติส่วนตัวเขียนด้วยลายมือเป็นเรียงความ 1 ชุด ย้ำหากเตรียมเอกสารได้ไม่ครบถ้วนอาจถูกคัดออก และถ้าจะให้ดี ควรหมั่นเช็กข้อมูลในเว็บไซต์
5. การจะสมัครทุนต่างประเทศ ควรมีผลสอบอะไรบ้าง
ที่สำคัญเลยควรจะต้องมีผลสอบ IELTS และ TOEFLเพื่อรับรองว่าเรามีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในระดับใดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยหรือเกณฑ์รับสมัครทุนต่าง ๆ ด้วยว่าต้องการผลสอบในระดับคะแนนเท่าไหร่ สำหรับIELTS ส่วนมากรับ 6.5 ขึ้นไป และปัจจุบันนี้บางมหาวิทยาลัยในอังกฤษเปิดรับผล TOEFL ด้วยแล้ว บางทุนที่มาจากประเทศอื่น ๆ เช่น ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น จะต้องมีผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ด้วย
6. ถ้ารับทุนการศึกษาจากต่างประเทศจะต้องชดใช้ทุนไหม
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้ทุน แต่ส่วนมากทุนรัฐบาลต่างประเทศจะมีลักษณะเป็นทุนให้เปล่า ซึ่งอาจจะเป็นทุนเต็มจำนวนหรือทุนบางส่วน เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ยังมีความคาดหวังว่าผู้ที่ได้รับทุนจะกลับไปทำประโยชน์ให้กับประเทศด้วย
7. มีทุนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากรัฐบาลต่างประเทศไหม
นอกเหนือจากทุนรัฐบาลต่างประเทศแล้ว ยังมีทุนต่าง ๆ ที่มาจากองค์กร หรือบริษัทเอกชน สำหรับจากทุนองค์กร หรือทุนมูลนิธิต้องตามด้วยว่าองค์กรนั้น ๆ ให้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่เราต้องการเข้าศึกษาหรือเปล่า
8. ถ้าได้ทุนแล้ว แต่ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศได้ จะทำยังไง
ในกรณีที่แหล่งทุนอนุมัติให้ทุนเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้สมัครไม่สามารถผ่านเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยใด ๆ ได้ เท่ากับว่าต้องสละสิทธิ์ทุนนั้นไปโดยปริยาย
9. ต้องเก่งแค่ไหนถึงขอทุนได้
ทุนส่วนมากมักให้กับผู้ที่มีผลการเรียนดี-ดีมาก โดยทั่วไปแล้วคุณสมบัติ คือ เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป บางทุนรับเฉพาะเกียรตินิยม เช่น ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ทุนรัฐบาลนิวซีแลนด์ เป็นต้น ผลการสอบ IELTS 6.5 ขึ้นไป หรือ TOEFL 550 ขึ้นไป นอกจากผลการเรียนดีแล้วต้องรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่าง พร้อมเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ใหม่ ๆ ได้
10. ถ้าอยากไปเรียนในประเทศยุโรป มีทุนไหนน่าสนใจบ้าง
นี่เลย ทุนอีราสมุส มุนดุส เป็นทุนสหภาพยุโรป ให้เพื่อไปเรียนต่อปริญญาโทในประเทศต่าง ๆ ที่เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป นักเรียนทุนจะได้เรียนในประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 2 ประเทศในยุโรป แล้วแต่หลักสูตร ทุนนี้น่าสนใจมากเพราะผู้ที่ได้รับทุนจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่าง ๆ อย่างมากมาย
11. letter of recommendation คืออะไรจำเป็นต้องมีไหมletter of recommendation คือ จดหมายรับรอง เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นจดหมายรับรองว่าผู้สมัครรับทุนมีความรู้ความสามารถ แสดงว่าเรามีความสามารถอย่างไร เคยทำผลงานอะไรมาก่อน และมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร เพื่อทำให้ผู้พิจารณาเห็นภาพว่าเรามีคุณสมบัติอย่างไร โดยการเขียนรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์ที่ดูแลการสอนให้กับผู้สมัครสมัยเรียน รวมถึงอาจจะเป็นหัวหน้างานด้วยก็ได้ส่วนมากนิยมให้อาจารย์เขียนรับรองให้ ขอบอกทิ้งท้ายไว้
ว่า ควรจะมีจดหมายรับรองด้วย
12. ตอนนี้เทรนด์เกาหลีกำลังแรง มีทุนไปเกาหลีบ้างไหม
รัฐบาลเกาหลีใต้มีทุนศึกษาต่อปริญญาโท-เอก และทุนวิจัยระยะเวลา 1 ปี และ 6 เดือน รวมทั้งมีทุนจากสถาบันการศึกษาให้แก่ชาวไทยด้วย ทุนรัฐบาลประกอบด้วย ทุนในสาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ทุนวิจัย เช่น ทุนจาก KFAS หรือThe Korea Foundation for Advanced Studies เป็นหน่วยงานที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนความร่วมมือในด้านการเรียนในระดับนานาชาติ เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าทางด้านวิชาการ และความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องที่มาจากต่างภาษาและวัฒนธรรม สามารถสอบถามเรื่องทุนรัฐบาลเกาหลีได้ที่ สถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย โทร. 0-2247-7537
13. ถ้าอยากขอทุนเพื่อเรียนเกี่ยวกับดนตรีโดยเฉพาะเลยมีไหม
มีทุนฝึกอบรมดุริยางคศิลป์ (คลาสสิก) ประเทศออสเตรีย คุณสมบัติคือ เป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาสังกัดคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือเป็นนิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาดุริยางคศิลป์ (คลาสสิก) หรือเรียนจบปริญญาตรีในสาขานี้หรือเทียบเท่า อายุไม่เกิน 30 ปี ประเภท Voiceและอายุไม่เกิน 35 ปี ประเภท Instrument สามารถติดตามรายละเอียดในเว็บ www.inter.mua.go.th
14. อยากสมัครทุนชีฟนิ่ง มีวิธีการสมัครอย่างไร
ปัจจุบันทุนนี้ไม่เปิดรับบุคคลทั่วไปแล้ว รับเฉพาะผู้ที่สังกัดในองค์กรที่ได้รับหนังสือเชิญจากสถานทูตอังกฤษและได้รับการเสนอชื่อเท่านั้น
15. ถ้าบางทุนมีเงื่อนไขว่าต้องมีจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เราควรทำอย่างไร
นั่นหมายความว่า ผู้สมัครต้องได้จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยทางนั้นมาก่อน จึงมีสิทธิ์ยื่นพร้อมใบสมัครและหลักฐานอื่น ๆ ให้กับหน่วยงานที่ดูแลทุนได้ภายหลัง ถ้าไม่มีจดหมายตอบรับก็ไม่สามารถสมัครได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอีกเช่นกัน แต่ก่อนที่จะเข้าถึงขั้นตอนการรับจดมายจะต้องติดต่อกับมหาวิทยาลัยทางต่างประเทศเอง โดยผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
16. ทุนอบรมระยะสั้นมีระยะเวลานานเท่าไร
ทุนอบรมอยู่ในช่วงระยะเวลา 1-3 เดือน บางโปรแกรมจัดให้มีการสัมมนาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ด้วย
17. ทุนการศึกษาต่างประเทศ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นทุนเต็มจำนวนหรือไม่ ถ้าเต็มจำนวนก็ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือนค่าเล่าเรียน ค่าบำรุงห้องสมุด ค่าเดินทาง แต่ถ้าเป็นทุนสนับสนุนบางส่วน ผู้สมัครต้องออกค่าใช้จ่ายเอง เช่น ค่าเล่าเรียนบางส่วน ค่าเดินทาง เป็นต้น
18. ไม่เก่งภาษาขอทุนได้ไหม
มีโอกาสน้อยมากเลย เพราะการพิจารณาให้ทุนนั้นเรื่องภาษาเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอย่างน้อยการสัมภาษณ์ก็เป็นภาษาอังกฤษ และต้องเรียนในหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย
19. ถ้าจะขอทุนวิจัยต้องทำอย่างไร
เช่นเคยเริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูล รายละเอียดทุนต่าง ๆ ก่อน และทุนวิจัยนั้นจะต้องมีโครงร่างวิจัย (Research Proposal) ไปนำเสนอก่อนด้วย
20. จะขอทุนการศึกษา เริ่มขอได้ตั้งแต่เรียนอยู่ในระดับไหน
ทุนการศึกษามีให้ตั้งแต่น้อง ๆ ที่เรียนอยู่ระดับมัธยมฯ เช่น ทุนอียิปต์ที่ให้นักเรียนมัธยมต้น แต่ทุนส่วนมากจะเป็นทุนในระดับอุดมศึกษาขึ้นไป เน้นทุนศึกษาระดับปริญญาโท ปริญญาเอกและทุนวิจัย
http://campus.sanook.com
ศธ. จัดค่ายสานสัมพันธ์นักเรียนทุนรัฐบาล (กลุ่มสารนิเทศ 25/10/50)
http://www.moe.go.th/
ครม. พิจารณา ควรจะดำเนินการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ หรือไม่
รมว.ศธ.เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ เป็นการเตรียมข้อมูลสำหรับเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาว่า ควรจะดำเนินการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ หรือไม่ โดยที่ประชุมได้เสนอหลักการในประเด็นต่างๆ ดังนี้
>จะให้ทุนแก่นักเรียนเรียนดี แต่ยากจน ที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยยึดเขตพื้นที่การศึกษา ๑๗๘ เขตๆ ละ ๒ คน รวม ๓๕๖ คน และทุนสายอาชีวศึกษาจังหวัดละ ๑ คน รวม ๗๖ คน รวมทั้งสิ้น ๔๓๒ คน
>ต้องไปเรียนในสาขาที่เป็นความต้องการของท้องถิ่น และไปเรียนในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กเก่งไปเรียนในประเทศที่เก่ง และได้วิชาการ รวมทั้งภาษามาด้วย
>เป็นทุนที่ไม่มีข้อผูกมัด แต่มีเงื่อนไขว่าจบแล้ว จะต้องกลับมาทำงานในประเทศไทย
>จะไม่มีทุนเพื่อให้ศึกษาในประเทศเหมือน ๒ รุ่นที่ผ่านมา เนื่องจากประเมินผลแล้วพบว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดทุนในลักษณะนี้ให้เรียนในประเทศ เพราะมีทุนอื่น รวมทั้งมีเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นการประกันโอกาสบุคคลเหล่านี้อยู่แล้ว
รมว.ศธ. ได้กล่าวถึงกรณีรับทุนไปศึกษาแล้ว หากมีเหตุให้เรียนไม่ได้ ก็จะยุติการให้ทุน เพราะถือว่าเมื่อได้รับทุน ก็มีสิทธิ์เลือกประเทศและสาขาที่ต้องการจะศึกษาด้วยตนเอง หากเรียนไม่จบหรือขอยุติการศึกษา ก็ถือว่าเป็นการยุติทุน ส่วนการเลือกมหาวิทยาลัยนั้น ก็จะอนุญาตให้ไปเรียนในสถาบันที่เป็นที่รับรอง และมีชื่อเสียงในสาขานั้นๆ โดยจะเขียนเงื่อนไขไว้ รวมทั้งใช้กระบวนการแนะนำเมื่อสมัคร
ศธ.จะนำเสนอต่อ ครม.ว่า หากจะมีทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๓ ก็ให้เริ่มในปีงบประมาณ ๒๕๕๑ เพื่อให้มีการเตรียมการไปศึกษาได้ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๑ โดยจะมีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอุดหนุน ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนเงิน แต่จะไม่มากเท่าเดิมเพราะจำนวนทุนลดลง
รมว.ศธ.กล่าวสรุปว่า ได้มีการประเมินผลการศึกษาของนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ ๑ จำนวน ๖๒๘ คน ที่ไปเรียนใน ๑๕ ประเทศ คือ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ออสเตรีย สเปน เดนมาร์ก อินเดีย สวีเดน มาเลเซีย อียิปต์ และอิตาลี ผลปรากฏว่า เรียนได้ดีเด่น ๒๐% ของจำนวนเด็ก ปานกลาง ๕๐% ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับการส่งนักเรียนไปเรียนในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ส่วนอีก ๓๐% อาจเรียนไม่จบ หรือมีปัญหา และต้องกลับมาเรียนในประเทศ เพราะทุนรุ่นนี้ยังกลับมาเรียนในประเทศได้ ดังนั้น หากมีการเตรียมตัวด้านภาษาให้มากพอก่อนการเดินทาง ก็อาจจะทำให้จำนวนผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงกว่านี้ และคุ้มค่าที่จะลงทุน
สำหรับนักเรียนทุนในรุ่นที่ ๒ จำนวน ๗๗๓ คน ใน ๑๖ ประเทศ (รวมแคนาดา) ขณะนี้กำลังเรียนภาษาเป็นส่วนใหญ่ และมหาวิทยาลัยได้ตอบรับให้เข้าศึกษาแล้วจำนวน ๑๘๗ คน.
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี - 17 ต.ค.2550
http://www.moe.go.th
ศธ.เดินหน้า 1 อ.1 ทุน ขีดวงให้เฉพาะต่อ ตปท.ลั่นเรียนห่วยยุติ
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น หรือ โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน นั้น ในที่ประชุมได้เตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรมีต่อในรุ่นที่ 3 ทั้งนี้ ยังคงยึดหลักการเดิมที่เคยเสนอไปคือ ให้ทุนแก่นักเรียนที่จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เรียนดีแต่ยากจน โดยจะให้โควตาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 178 เขตทั่วประเทศ เขตละ 2 คน และนักศึกษาอาชีวศึกษา ทั้ง 75 จังหวัดๆ ละ 1 คน รวมทุนทั้งสิ้น 432 ทุน โดยกำหนดเงื่อนไขนักเรียนทุน ว่า เมื่อเรียนจบแล้วจะต้องกลับมาทำงานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือบริษัทเอกชนก็ได้ เพราะไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำงานใช้ทุนรัฐบาล
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า ผลการประเมินผลโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนเลือกเรียน 16 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สวิส จีน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รัสเซีย ออสเตรีย สเปน เดนมาร์ก อินเดีย สวีเดน มาเลเซีย อียิปต์ และอิตาลี โดยนักเรียนรุ่นที่ 1 มีผู้เข้าเรียนจำนวน 628 คน พบว่า นักเรียนมีผลการเรียนดีเด่น 20% เรียนปานกลาง 50% เท่ากับว่าที่ส่งไปมีถึง 70% ส่วนที่เหลือ 30% อาจจะไม่จบหรือมีปัญหาต้องกลับมาเรียนในประเทศได้
อย่างไรก็ตาม นักเรียนทุน 2 รุ่นแรก ยังเปิดโอกาสให้กลับมาเรียนในประเทศได้ สำหรับรุ่นที่ 2 เพิ่งเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่คน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเตรียมภาษา ดังนั้น จึงยังประเมินไม่ได้ หากดูผลจากรุ่น 1 ซึ่งผลการเรียนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวอีกว่า เมื่อประเมินผลคร่าวจากนักเรียนทุน 2 รุ่น นั้น ผลอยู่ในขั้นพอใจ จึงจะเสนอรัฐบาลให้จัดทุนรุ่นที่ 3 แต่จะไม่มีทุนในประเทศเหมือน 2 รุ่นที่ผ่านมา และจะไม่ให้ทุนไปเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ ดูจากข้อมูลพบว่าคนไทยที่จบระดับ ม.ปลาย หรือระดับปริญญาตรี ที่ได้รับทุนรัฐบาล หรือใช้ทุนตัวเองไปเรียนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกามีคนไทยไปเรียนถึง 10,000 คน อังกฤษ 50,000 คน จึงสมควรแล้วที่จะสนับสนุนให้คนไปเรียนในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากคนไทยมีโอกาสไปเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษมากพออยู่แล้ว
ทั้งนี้ เด็กทุนรุ่น 3 ศธ.จะให้สิทธิเด็กเลือกสาขาและประเทศที่จะไปศึกษาต่อ แต่ต้องเป็นสาขา และสถาบันที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ถ้าหากนักเรียนไปศึกษาต่อแล้วและรู้ตัวเองว่าเรียนไม่ไหว หรือไม่สามารถเรียนต่อจนจบหลักสูตรได้ ทางคณะกรรมการเสนอว่าให้มีการยุติการให้ทุนทันทีแม้จะกลับมาเรียนในประเทศไทย
“เหตุผลที่คณะกรรมการยุติการให้ทุนในประเทศ เพราะหากลงทุนควรคุ้มค่า เพราะนี่ไม่ใช่ทุนสวัสดิการเป็นทุนจัดสร้างผู้นำทางวิชา และเน้นสะท้อนความต้องการท้องถิ่น อีกอย่างปัจจุบันเรามีทุนอื่นๆ เช่น กองทุนเงินให้กู้ยืมทางการศึกษา ที่ช่วยประกันโอกาสทางการศึกษาได้อยู่แล้ว จึงกำหนดเงื่อนไขให้เรียนเฉพาะต่างประเทศ และประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าเรายังยืดหยุ่นให้เลือกเรียนต่างประเทศแล้วเรียนไม่ไหว แล้วขอกลับมาเรียนในไทย ก็ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการให้เด็กเรียนในประเทศที่เก่ง เรียนสาขาเฉพาะทาง เพื่อนำความรู้มาพัฒนาท้องถิ่น”
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวด้วยว่า ตนจะเสนอ ครม.ว่า รุ่นที่ 3 ขอเริ่มตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้เด็กได้เตรียมตัวไปศึกษาต่อในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งระหว่างนั้นจะมีค่าใช้จ่ายแต่ยังไม่ทราบว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เชื่อว่าเป็นเงินไม่มากเพราะทุนรุ่น 3 กว่า 2 รุ่นที่ผ่านมา จึงขอให้รัฐบาลหางบมาช่วยด้วย
ผู้จัดการออนไลน์ | 17 ตุลาคม 2550 |
นร.ทุนแค่คนเรียนม.ดัง ที่เหลือกว่าเรียนม.ปานกลาง
ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ตุลาคม2550 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ที่เปลี่ยนชื่อมาจากโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่ ศ.ดร.วิจิตรศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มอบให้หน่วยงานไปสำรวจมาเพื่อนำมาปรับปรุงเงื่อนไขการให้ทุน 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นที่ 3 ให้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นและตอบคำถามของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้ให้ข้อสังเกตไว้ในเมื่อครั้งที่ศธ.เสนอโครงการนี้ขอความเห็นชอบจากครม.
ปลัดศธ. กล่าวต่อว่าข้อมูลหลักที่ รมว.ศธ.ต้องการนั้นได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปสำรวจว่านักเรียนโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นที่ 1 ซึ่งเลือกเรียนต่อต่างประเทศรวม628 รายนั้นสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอันดับใดของแต่ละประเทศ เพราะ รมว.ศธ. ต้องการให้นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เก่งในแต่ละสาขาได้จริงๆเพื่อคุ้มกับทุนนี้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
ทั้งนี้ทาง ก.พ.ได้ไปสำรวจและส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้ศธ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า นักเรียน 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นแรก ที่ไปเรียนต่อใน 18 ประเทศส่วนใหญ่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับกลาง มีประมาณ 100 กว่ารายที่สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับดีซึ่งก็คือมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับต้นๆของประเทศนั้นๆ
อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศมีสัดส่วนนักเรียนทุน 1 อำเภอ ที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่อันดับดีแตกต่างกัน อย่างนักเรียน 1 อำเภอ1 ทุนของประเทศญี่ปุ่นจำนวนทั้งหมด 119 คนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ถึง 112 คน
ทั้งนี้เมื่อแต่ละหน่วยงานนำเสนอข้อมูลที่ รมว.ศธ.มอบหมายให้ไปสำรวจมาแล้วก็จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงเงื่อนไขและเกณฑ์การรับทุนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น หลังจากนั้น ศธ.จะสรุปเรื่องโครงการ1 อำเภอ1 ทนรุ่น 3 ขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)
รายงานข่าวแจ้งว่าศ.ดร.วิจิตร มีนโยบายให้นักเรียนทุนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ในรุ่นต่อไป เน้นเรียนสาขาที่ประเทศชาติต้องการนำมาใช้พัฒนาประเทศ ไม่ใช้เงินทุนสูญเปล่า หรือเรียนในสาขาที่ประเทศชาติไม่ต้องการหรือมีคนล้นงานอยู่แล้ว คาดว่าในการประชุมวันที่ 12 ตุลาคมนี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น
http://www.komchadluek.net
เผยเด็ก 1 อำเภอ 1 ทุนรุ่น 1 ไม่เจ๋งจริง
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันที่ 12 ต.ค. นี้จะประชุมคณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น เดิมชื่อโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาเสนอศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนำมาปรับปรุงเงื่อนไขเด็กรุ่นที่ 3 ให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปสำรวจนักเรียนต่อต่างประเทศรวม 628 รายนั้นพบว่า นักเรียน 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นแรกที่ไปเรียนต่อใน 18 ประเทศ ส่วนใหญ่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับกลาง มีเพียง 100 คนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระดับต้นๆของประเทศนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศมีสัดส่วนนักเรียนทุนเข้ามหาวิทยาลัยที่อันดับดีแตกต่างกัน อย่างนักเรียนทุนที่ไปเรียนประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 119 คน เข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ถึง 112 คน
http://manager.co.th
การ์ตินี มะเหาะ เด็กทุนโอดอส "เรียนจบกลับไปพัฒนาชาติไทย"
วันนี้"คมชัดลึก" ขอนำเสนอมุมมอง - การ์ตินี มะเหาะ หรือน้องนี ศิษย์เก่าโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน จ.นราธิวาส วัย 23 ปี นักเรียน1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นแรกไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาตะวันออกกลาง American University (AUC) เริ่มเรียนวิชาในชั้นปีที่ 1 ในวันที่ 5 กันยายน จากนี้ไปอีก 4 ปี จะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบทั้งหมด 120 หน่วยกิต
ทุนสำหรับนักศึกษาที่ได้เดือนละ900 ดอลลาร์สหรัฐ ในแต่ละเดือนก็ใช้จ่ายอย่างประหยัด และส่วนมากก็ไม่ได้ใช้เงินซื้ออะไรที่ฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว จ่ายค่าที่พักประมาณ 363 ดอลลาร์สหรัฐ ค่ากินอย่างเดียว 150 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วเหลือเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่งซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะเก็บไว้เป็นทุนเรียนต่อสูงๆ และเก็บไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน และหาประสบการณ์อียิปต์ เรียนจบแล้วจะกลัปไปทำงานที่ประเทศไทยช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าสืบไปอย่างแน่นอน น้องนีกล่าว
หนูถูกพ่อแม่สอนให้มัธยัสถ์ตั้งแต่เด็กๆให้เป็นคนประหยัดมากๆ รู้จักเก็บเงิน ถ้าเหลือจากไปโรงเรียนแต่ละวัน ก็หยอดกระปุกออมสินเอาไว้ เวลาอยากได้สิ่งของที่อยากได้จะได้ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ เพราะพ่อแม่มีภาระต้องเลี้ยงดูน้องอีกตั้ง 2 คน ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ตอนเรียนมัธยม ที่โรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน จ.นราธิวาส ได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 20 บาท กินข้าวกลางวัน 10 บาท เหลืออีก 10 บาท ก็กินขนมบ้าง เหลือจากนั้นก็เก็บออมเอาไว้ใช้ยามจำเป็น นีกล่าวถึงคำสอนที่จำจนขึ้นใจ
เธอยังน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงแนวคิดความพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต มีแค่ไหนใช้แค่นั้นไม่โลภมาก รู้จักตัวเองก็ไม่เดือดร้อน ใช้อย่างพอเพียง พอมีพอกิน ตามรอยพ่อหลวงไม่ผิดแน่นอน นี ย้ำหนักแน่น เพราะได้ทดลองจนประจักษ์ผลและเธอก็นำเอาไปใช้ในการดำรงชีวิตในต่างแดนด้วย น้องนีบอกว่าหลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาตะวันออกกลางแล้ว เธอจะใช้เงินส่วนที่เก็บออมอย่างมัธยัสถ์จากทุนโอดอสที่ได้รับในแต่ละเดือนเพื่อสานฝันเรียนต่อปริญญาโทในสาขาเดิมให้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ เพราะผู้เรียนด้านนี้น้อยมาก หากเธอเรียนจบแล้ว จะกลับไปทำงานที่ประเทศไทย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศอียิปต์ให้ดียิ่งขึ้น
ประสบการณ์มากมายในต่างแดนทำให้น้องนีแข็งแกร่ง และเอาตัวรอดได้ โดยเฉพาะการตรงตอเวลา เพราะที่มหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่จะสอนให้เป็นคนตรงเวลามาสาย 1 วินาทีก็ถือว่าสาย ครูจะเช็คขาดทันที เพราะต้องการสอนให้เป็นคนตรงต่อเวลา จากวันวารจนถึงวันนี้ เธอก็ยังน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความพอเพียง และคำสอนของพ่อแม่ การประหยัดมัธยัสถ์ เป็นหลักมั่นในการดำรงชีวิต และจะยึดหมั่นคำสอนอันดีงามนี้ไว้ต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
http://www.komchadluek.net
เปิดแล้วเว็บไซต์ odos-online.com
ต้องพยายามเข้าใจสักนิดนึงนะครับว่า ระยะนึง เพื่อนๆโอดอสหลายประเทศก็ได้มีส่วนจัดทำเว็บไซต์ขึ้นมากันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เป็นจุดเชื่อมระหว่างเพื่อนๆนักเรียนทุนฯโอดอสด้วยกัน และก็เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการ แต่ระยะหลังมานี้ เพื่อนๆหลายคนต้องมีภาระหน้าที่การเรียนที่วุ่นวายและลำบากกันมากขึ้น การเรียนการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆสำหรับพวกเรา หลายเว็บไซต์ก็เลยหยุดให้ใช้งานกันไป แต่การสร้างเว็บไซต์ของโอดอสแต่ละประเทศนั้นไว้ซึ่งมันก็ย่อมเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะเราจะได้สามารถรับรู้ข่าวสารต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งความคิด ความรู้สึก และข้อเท็จจริงๆอะไรต่างๆ รวมทั้งประเด็นแต่ละปัญหาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่การนำมาวิพากวิจารณ์ แต่เราสามารถเช่นกันนำมาปรับปรุงแก้ไข้ นำมาพัฒนาในหลายๆส่วนต่างๆที่เป็นข้อผิดพลาดให้ดีมากยิ่งขึ้น เท่ากับว่า แต่ละเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทุนโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนฯ และหากเราได้รับรู้รับฟังกันมา มันจะมีส่วนร่วมในการสร้างภูมิต้านทานให้กับพวกเรากันเอง ทำให้พวกเรามีความรู้ ความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ต่างๆที่แน่นแฟ้นกันมากขึ้นและยังส่งผลดีในอนาคตการทำงานของพวกเราอีกด้วยเช่นกัน (โดยไม่ต้องคำนึงถึงภาระภาพพจน์ของทุนฯ) เพราะฉนั้นเองแล้วถ้าเรามองแต่ส่วนดีๆ การรับรู้รับฟังข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับทุนโครงการนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่แปลก(กูเกิ้ลยังรู้เลย) ดังนั้นแล้วการผลักดันในส่วนของการจัดทำเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก
กรรมการฟันธง นศ.เรียนทุนหวย
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นว่าทุนดังกล่าวควรให้เป็นทุนการศึกษาต่างประเทศต่อ เพราะการศึกษาในประเทศมีมาตรการอื่นๆ ให้โอกาสเด็กยากจนอยู่แล้ว อีกทั้งการส่งคนไปเรียนในหลายๆ ประเทศ จะทำให้รู้สภาพความเป็นอยู่ทำให้ประเทศไทยสามารถคบหาอย่างชาญฉลาดกับนานาประเทศ รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรผูกผันให้กลับมาทำงานราชการ เพราะเท่ากับเป็นการบังคับให้รัฐต้องอุ้มนักเรียนทุนเหล่านี้ และต้องหางานรองรับพวกเขา อีกทั้งจุดมุ่งหมายของทุนคือต้องการพัฒนาปัญหาของเยาวชน ไม่ใช่พัฒนาคนกลับมาทำงานให้ราชการ ส่วนประเด็นว่า ควรส่งไปเรียนในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษด้วยหรือไม่นั้น ได้ให้ทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปหาตัวเลขนักเรียนไทยที่ไปเรียนประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ แยกออกมาว่า ในจำนวนนี้เป็น นักเรียนทุนรัฐบาลไทยจำนวนเท่าใด เพื่อนำข้อมูลมาตัดสินใจว่า ควรส่งนักเรียนทุนไปประเทศที่พูดภาษาอังกฤษหรือไม่ แต่แนวโน้มคิดว่าไม่จำเป็นเพราะมีทุนการศึกษาที่ส่งไปเรียนในประเทศที่พูดภาษอังกฤษมากอยู่แล้ว
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ได้มอบให้ทาง ก.พ.ซึ่งรับหน้าที่ดูแลนักเรียนทุนดังกล่าวในต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่รับหน้าที่ดูแลนักเรียนทุนในประเทศ ไปร่วมกันทำรายงานติดตามผลนักเรียนทุนทั้ง 2 รุ่น มา แสดงข้อมูลว่านักเรียนทุนทั้ง 2 รุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ 1 นั้น เข้ามหาวิทยาลัยได้จำนวนเท่าใดแล้ว ผลการเรียนและโอกาสจบการศึกษาเป็นอย่างไร
ที่สำคัญผมต้องการรู้อย่างละเอียดว่า นักเรียนทุนแต่ละรายเข้าเรียนในสถาบันไหน และเรียนสาขาวิชาใด และเป็นสาขาที่ตรงตามความต้องการของประเทศหรือไม่ ตรงนี้มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเขาไปเรียนในสถาบันที่ไม่เก่ง หรือไปเรียนในสาขาวิชาที่สถาบันนั้นๆ ไม่เก่ง เป็นสาขาวิชาที่ไม่มีประโยชน์ จะถือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เพราะจริงๆ แล้ว โครงการต้องการส่งเด็กเก่งเหล่านี้ไปเรียนในสถานบันที่เก่งๆ เพื่อให้พวกเขาเก่งยิ่งขึ้น แล้วนำความเก่งมาใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ศ.ดร.วิจิตร กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า นักเรียนทุนบางรายไม่สามารถเข้าสถาบันเก่งๆ ได้ เนื่องการจากเตรียมตัวที่ไม่พร้อม โดยเฉพาะการเตรียมตัวทางด้านภาษา ทำให้ต้องเลือกสาบันการศึกษาที่รองๆ ลงมา หรือเลือกเรียนในวิทยาลัยอาชีวะแทนแล้วค่อยโอนมาเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความตั้งใจของโครงการต้องการให้นักเรียนทุนำเรียนในสถาบันเฉพาะทางระดับปริญญาตรีที่เก่งๆ นอกจากนั้นการเตรียมพร้อมที่ไม่ดีพอทำให้นักเรียนทุนรุ่นแรกเกือบ 100 คน กลับมาเรียนต่อในประเทศ ส่วนใหญ่จะไปเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน และเลือกเรียนทางสังคมศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่สาขาที่ประเทศต้องการ หมดโอกาสที่จะเข้ามหาวิทยาลัยรัฐที่มีความเก่งในหลายสาขาวิชามากกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน
เพราะฉะนั้นเมื่อรายการการติดตามผลออกมา พบว่าเรื่องนี้เป็นปัญหามาก ในรุ่นที่ 3 อาจจะต้องมีการเพิ่มเกณฑ์ในเรื่องการเลือกมหาวิทยาลัยด้วย เหมือนอย่างทุนการศึกษาของธนาคารนั้นจะกำหนดไว้เลยว่า ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน TOP TEN เท่านั้น เพราะฉะนั้นโครงการอาจจำเป็นต้องกำหนดว่ามหาวิทยาลัยที่เด็กจะเรียนนั้นต้องเป็นสถาบันที่เก่ง เป็นสาขาที่ประเทศต้องการและเป็นสาขามีความเชี่ยวชาญของสถาบันนั้นๆ รวมทั้งอาจต้องปรับให้นักเรียนเตรียมความพร้อมทางภาษาให้แน่นตั้งแต่อยู่ในประเทศไทย ระหว่างนั้นให้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วย หากสามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อได้ค่อยส่งตัวไปเรียน ทั้งนี้เพื่อให้ทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลเบื้องต้นจาก ก.พ.ว่า นักเรียนทุนรุ่น 1 ที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด 640 ราย นั้น 25% คาบลูกคาบดอกว่าจะจบหรือไม่จบ ที่เหลืออีก 75% นั้น มีโอกาสจบสูงแต่ในจำนวนนี้ 60% เท่านั้น ที่จบตามกำหนด อีก 15% ต้องใช้เวลานานกว่าปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้นักเรียนทุนซึ่งเป็นเด็กเก่งของแต่ละอำเภอต้องเปลี่ยนมาเรียนในประเทศเกือบ 100 คน และไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยเก่งๆ ได้ ขณะที่บางส่วนมีความเสี่ยงจะไม่จบ ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า เพราะการเตรียมการที่ไม่รัดกุมและเร่งรัดส่งเด็กไปต่างประเทศ รวมทั้งมีลูกหัวคะแนนติดมาด้วย ทั้งนี้คาดว่า รายงานติดตามผล และข้อมูลต่างๆ ที่มอบให้ ก.พ. และ สกอ.ไปจัดทำมาจะเสร็จภายในเดือน หลังจากนั้นจะกลับมาประชุมกันอีกครั้งก่อนจะสรุปเรื่องเสนอ ครม. คาดว่าเสนอ ครม.ได้ในเดือนกันยายนนี้
http://www.moe.go.th/
นร.ทุนอำเภอเรียนต่อฝรั่งเศส ขอกลับไทยมากที่สุดเหตุอ่อนภาษา
ดร.จรวยพรธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า นักเรียนทุนโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นแรกที่ขอกลับมาเรียนในประเทศไทย จำนวน 93 รายจากทั้งหมด 740 รายนั้นมาจากเหตุผลหลัก 3 เรื่องคือ ปัญหาสุขภาพส่วนตัว บางคนมีโรคประจำตัว และบางคนเป็นโรคคิดถึงบ้าน และสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้เพราะไม่สามารถทำคะแนนทดสอบทางภาษาได้ตามเกณฑ์หรือไม่ผ่านการทดสอบอื่นๆ เช่น สอบสัมภาษณ์ รวมถึงเปลี่ยนใจ ขอกลับมาเรียนในไทยเอง โดยนักเรียนทุนจากประเทศฝรั่งเศสขอกลับมาเรียนต่อในประเทศมากที่สุด เพราะประเทศฝรั่งเศลมีนักเรียนเลือกไปเรียนมากที่สุด โดยรุ่นแรกมีนักเรียนเลือกไปเรียนที่ ฝรั่งเศส จำนวน 142 รายรุ่น 2 จำนวน181 ราย
"ส่วนใหญ่ที่ขอกลับมาเรียนในประเทศเพราะไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะทำคะแนนทางภาษาไม่ได้ตามเกณฑ์ โดยเฉพาะบางประเทศอนุญาตให้ทดสอบทางภาษาได้ 2 ครั้งอย่างเช่น เยอรมนี หากครบ 2 ครั้งแล้วไม่สามารถผ่านการทดสอบทางภาษาได้จะไม่ต่อวีซ่าให้ เด็กก็ต้องเดินทางกลับไทย" ปลัด ศธ. กล่าว
ดร.จรวยพร กล่าวอีกว่า เด็กไม่สามารถผ่านการทดสอบทางภาษาได้นั้น เพราะนักเรียนทุนรุ่นที่ 1 มีเวลาเข้าค่ายเพื่อเตรียมความพร้อมแค่5 วันเนื่องจากต้องการเร่งรัดส่งตัวไปต่างประเทศ เมื่อเด็กต้องเดินทางไปเรียนภาษายังต่างประเทศทั้งที่เจ้าตัวไม่มีพื้นฐานทางภาษา จึงทำให้เกิดปัญหา ไม่สามารถเรียนภาษาได้เชี่ยวชาญและสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ภายใน 2 ปีตามที่โครงการกำหนด ไว้
"คงต้องมีการทบทวนการเตรียมพร้อมทางภาษาให้แก่นักเรียนทุนรุ่นที่ 3 ส่วนรุ่นที่ 2 ได้ปรับให้มีการเข้าคอร์สภาษาเป็นเวลา4 เดือนโดยให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (องครักษ์) จ.นครนายก ดำเนินการ ส่วนภาษาจีนให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้เด็กมีพื้นฐานทางภาษาบ้าง เมื่อเดินทางไปเรียนภาษาในต่างประเทศแล้วจะได้ไม่เกิดปัญหา และได้ปรับวิธีคัดเลือกด้วย รุ่นแรกได้ให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้ออกข้อสอบคัดเลือกนักเรียนทุนแต่ละอำเภอเอง และสอบเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ แต่รุ่นที่ 2 ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกข้อสอบให้และสอบวิชาพื้นฐาน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์" ปลัด ศธ. กล่าว
http://www.moe.go.th/
http://www.komchadluek.net/
“วิจิตร” สั่ง ก.พ.-สกอ.สังคายนา 1 ทุน 1 อำเภอ ลั่นไม่คุ้มค่ายกเลิกทันที
“วิจิตร” เผยเด็ก 1 อำเภอ 1 ทุน ถอดใจกลับไทยเกือบ 100 ไม่ใช่ความล้มเหลว
สืบมาจากนักเรียนทุน โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น (รุ่นที่ 3 ) ปรากฏว่ามีเด็กจำนวนหนึ่งที่ไปเรียนต่างประเทศได้ขอย้ายกลับมาเรียนในประเทศไทยประมาณ 100 คน
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รุ่นที่ 1 นั้นมีผู้รับทุนจำนวน 921 คน แบ่งเป็นศึกษาต่อในประเทศ 181 คน ต่างประเทศ 740 คน รุ่นแรกมีเวลาเตรียมการน้อย จึงค่อนข้างมีปัญหาค่อนข้างมากในภายหลัง เช่น มีนักเรียน 93 คน หรือร้อยละ 10 ขอกลับมาเรียนต่อในประเทศ เพราะไปเรียนภาษาแล้วแต่ไม่สามารถสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของประเทศนั้นๆ ได้ และบางคนเปลี่ยนใจอยากกลับมาศึกษาต่อในประเทศเพราะคิดถึงบ้าน
ส่วนรุ่น 2 มีผู้รับทุน 915 คน แบ่งเป็นศึกษาต่อในประเทศ 176 คน และต่างประเทศ 719 คน ซึ่งรุ่นนี้มีนักเรียนขอย้ายกลับมาเรียนในประเทศเพียง 6 คนเท่านั้น เนื่องจากเรามีประสบการณ์จากรุ่นแรก เราก็พยายามแก้ไขให้ดีขึ้น โดยการเตรียมความพร้อมนักเรียนก่อนให้เด็กเดินทางไปเรียนต่างประเทศ
“นักเรียนที่เลือกไปศึกษาต่อในต่างประเทศเปลี่ยนใจกลับมาเรียนไทยเป็นสิทธิ์ของเขา เด็กส่วนใหญ่จะเลือกมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะหากเลือกเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐเด็กจะต้องสอบตรงกับมหาวิทยาลัยแห่งนั้น อย่างไรก็ดี การที่เด็กไปเรียนต่างประเทศแล้วขอกลับมาเรียนเมืองไทยนั้น ไม่ใช่ความล้มเหลว”
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า 10 ส.ค.นี้ ตนจะหารือร่วมกับคณะทำงานโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 3 เพื่อนำข้อเสนอจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น ทุนนี้ควรมีการผูกพันให้เด็กเรียนจบแล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ไม่ใช่ทุนให้เปล่า เป็นต้น เมื่อได้ข้อสรุปจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ต่อไป
http://manager.co.th/
“วิจิตร” ระบุเด็ก 1 ทุน 1 อำเภอไม่ผูกพันใช้ทุนเพราะรัฐไม่มีงานรองรับ
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้นำแนวทางในการจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น เข้าเสนอต่อที่ประชุม ครม. ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกต อาทิ เมื่อนักเรียนกลับมาแล้วจะต้องมาทำงานใช้ทุนหรือไม่ การจัดส่งนักเรียนไปเรียนในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เป็นต้น ซึ่ง ครม.ได้มอบให้ ศธ. กลับไปพิจารณา โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพิ่มเติม คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ เนื่องจากมีประเด็นที่จะต้องหารือไม่มาก เพื่อจะได้นำเสนอต่อ ครม. และประกาศจัดสรรทุนรุ่นที่ 3 ต่อจากเดิมโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอที่ส่งนักศึกษาไปเรียนในรุ่นที่ 1-2 ได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักการที่ให้ส่งเด็กไปเรียนในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากไทยต้องมีมิตรทั่วโลก และเวลานี้ทั้งวิทยาการและภาษา ก็ไม่ได้อยู่กับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น เช่น ระบบเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่โตที่สุดในขณะนี้ก็คือประเทศจีน เมื่อเราส่งเด็กไปเรียนวิทยาการที่หาที่อื่นไม่ได้ เช่น แพทย์แผนโบราณ ยาสมุนไพร ถ้าไม่รู้ภาษาจีนก็จะเข้าไม่ถึง และในการจะติดต่อคบหากับคนจีนก็ต้องพูดจีนได้ด้วย เพราะฉะนั้นการให้ไปเรียนที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษก็เป็นเหตุผลทางวิชาการด้วยเช่นกัน อีกทั้งในการทำมาค้าขายกับประเทศใดก็ตามเราต้องรู้เขารู้เราแล้วด้วย ซึ่งวิธีเดียวที่จะทำได้คือ ต้องรู้ภาษาของเขา
“ที่ผ่านมาเราส่งคนไปเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษมามากแล้ว แต่เราก็ถดถอยมากในการส่งคนไปประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้น การให้คนไทยไปเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอื่นจึงเป็นหลักการสำคัญของการให้ทุนนี้”
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ว่าควรเปิดให้เด้กเลือกไปเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษด้วยก็สามารถทำได้ เพราะยังถือว่าเป็นการดำรงวัตถุประสงค์ของการไปเรียนวิทยาการในประเทศที่เราต้องคบหาอยู่ นอกจากนี้ในประเด็นที่มีผู้เสนอว่าควรมีข้อผูกพันว่าจะต้องใช้ทุนคืนหากเด็กไปเรียนแล้วไม่กลับมาทำงานในท้องถิ่นของตนเอง เรื่องนี้มีประเด็นว่าหากเราจะผูกพันเด็กแล้วเรามีงานรองรับเขาหรือไม่ หากต้องประกันงานให้ด้วย เมื่อเด็กกลับมา 1 ปีหากไม่มีงานรองรับก็ต้องปล่อยเขาไป
“ผมมีความรู้สึกว่าเราให้ทุนเด็กไปเรียนแค่ปริญญาตรี และต้องการให้กลับมาทำงานในท้องถิ่น แต่ในทางปฏิบัติเด็กเหล่านี้เป็นเด็กเก่งก็จะไม่หยุดแค่ปริญญาตรี ซึ่งกว่าครึ่งก็ได้ทุนเรียนต่อปริญญาโท-เอก โดยขณะนี้มีการแจ้งมาแล้วว่าได้ทุนเรียนต่อในประเทศนั้นๆ ซึ่งเราก็อนุญาตทุกราย ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าจะผูกพันเด็กต้องให้ทุนถึงปริญญาโท-เอก แต่วันนี้เราให้เพียงปริญญาตรี ดังนั้นผมเห็นว่าควรรักษาหลักการเดิมไว้”
http://manager.co.th/
นักเรียน 1 อำเภอ 1 ทุน อ้อนเรียนไม่ไหวขอกลับไทยกว่าร้อย
ส่วนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น มี 2 รุ่น รุ่นแรกเลือกเรียนในต่างประเทศ 739 คน และรุ่น 2 จำนวน 728 คน เรียนในต่างประเทศ เพิ่งเดินทางไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่เหลือเรียนต่อในประเทศไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบกลางปี 2550 จำนวน 1,108 ล้านบาท ให้ใช้สำหรับเดือนมกราคม-กันยายน 2550 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว และอนุมัติให้ผูกพันงบประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อดูแลให้นักเรียนทุนทั้ง 2 รุ่นเรียนต่อจนจบ ซึ่งปีงบประมาณ 2551 สำนักงบประมาณได้อนุมัติวงเงินให้แล้ว 1,200 ล้านบาท
ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกรทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า มีนักเรียนทุนรุ่น 1 ที่ส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ปี 2546 สำเร็จการศึกษาและเดินทางกลับ ประเทศแล้วประมาณ 5 คน โดยสำเร็จการศึกษาจากประเทศอินเดีย และมีนักเรียนทุนบางส่วนขอเปลี่ยนมาเรียนต่อในประเทศไทย เพราะรู้ตัวเองว่าศักยภาพไม่เหมาะสมสำหรับการเรียนต่อในต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าไม่มีการส่งตัวกลับไปเรียนต่อในประเทศเพราะไม่มีงบประมาณอย่างแน่นอน
ส่วนนักเรียนรุ่น 3 จะลดจำนวนทุนเหลือประมาณ 400 กว่าทุน แยกเป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศจัดสรรให้เขตพื้นที่การศึกษาละ 2 คน รวมเป็น 356 ทุน (178 เขตพื้นที่การศึกษา) ทุนเรียนต่อทางด้านอาชีวศึกษาและทุนเรียนต่อในประเทศ ซึ่งสาเหตุที่ลดจำนวนทุนและจำกัดจำนวนทุนเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่รัฐบาลต้องการการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้เด็กในชนบทที่เรียนดีแต่ฐานะยากจนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา ซึ่งจะปรับให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ออกข้อสอบคัดเลือกแทน เพื่อคัดเลือกให้ได้นักเรียนที่เรียนเก่งอย่างแท้จริง
ผู้รับทุนจะต้องเลือกเรียนในสาขาที่ประเทศ หรือท้องถิ่นขาดแคลน เรียนต่อในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ จะได้ประโยชน์ทั้งวิชาการและส่งเสริมบทบาทไทยในประชาคมโลกด้วย และเตรียมความพร้อมด้านภาษาของเด็กตั้งแต่อยู่ในประเทศไทยประมาณ 3-6 เดือน และทดสอบหลังเตรียมตัวด้วยว่าเด็กสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีไปแล้วเรียนต่อไม่ไหวเหมือนกับนักเรียนทุนใน 2 รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างที่เตรียมความพร้อมอยู่ในประเทศไทยให้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยไปในเวลาเดียวกัน เมื่อเดินทางไปถึงสามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนภาษาอีกเป็นปี หากใครไม่ผ่านการเตรียมตัวทางด้านภาษาจะไม่ให้เดินทางไป
ทั้งนี้นักเรียนทุน 1 อำเภอ 1 ทุน ทั้ง 2 ทุน รวมทั้งหมด 1,836 คน เป็นนักเรียนที่เลือกเรียนต่างประเทศประมาณ 1,400 คน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะต้องสำรวจด้วยว่านักเรียนทุน 2 รุ่น มีโอกาสที่จะมีงานทำในท้องถิ่นมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดสาขาเรียนต่อของผู้รับทุน โดยจะมีการหารือสรุปแนวทางการดำเนินการในวันที่ 9 สิงหาคมด้วย
น.ส.การ์ตินี มะเหาะ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาตะวันออกกลาง American University (AUC) นักศึกษา 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นแรก ซึ่งไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศอียิปต์ กล่าวว่า นักเรียนไทยที่ไปเรียนในต่างประเทศในเบื้องต้นจะต้องไปเรียนภาษาเสียก่อนประมาณ 2 ปี จากนั้นถึงจะไปเรียนต่อด้านสาขาที่เลือกอีก 4 ปี และต้องเรียนให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เมื่อครบกำหนดเวลาที่ได้รับทุนการศึกษาก็ต้องเดินทางกลับ หากเรียนไม่จบตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ก็ต้องใช้ทุนของตัวเองเรียนต่อ
ส่วนการเตรียมความพร้อมที่จะเรียนสาขาตะวันออกกลาง American University ของ น.ส.การ์ตินี บอกว่า ต้องเรียนภาษาอังกฤษ 3 ปี เรียนวันละ 2 ชั่วโมง 30 นาที ประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งเรียนภาษาอาหรับใน 2 เดือนแรก เพราะต้องใช้ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ขณะนี้สอบภาษาอังกฤษผ่านแล้ว โดยจะเริ่มเรียนวิชาปี 1 ในวันที่ 5 กันยายนที่จะถึงนี้ และจากนี้ไปอีก 4 ปี จะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบทั้งหมด 120 หน่วยกิต คาดว่าจะเรียนภาคฤดูร้อนเสริมด้วย
น.ส.การ์ตินี กล่าวว่า ได้รับทุนค่าครองชีพเดือนละ 900 ดอลลาร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นค่าหอพักประมาณเดือนละ 363 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าอาหารประมาณเดือนละ 150 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่เหลือเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายเวลาที่จำเป็น และเก็บไว้เป็นทุนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งนักเรียนไทยที่เรียนในไคโรได้รับการดูแลจากสถานทูตไทยประจำกรุงไคโรเป็นอย่างดี
http://www.moe.go.th/
http://www.komchadluek.net/
เปิดม่าน (บทความใน)
00นัยว่า หลักสูตร "แพทย์แผนจีน"วิทยาลัยการแพทย์ทางเลือกของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม(มจษ.)กำลังกลายเป็นที่สนใจชองชาวอุดมศึกษามากๆ เพราะนอกจากจะเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่เปิดสอนแล้ว ยังมีนักษาศึกษาจาก "แดนมังกร"มาเรียนที่มจษ.ถึง 70 ชีวิต
0 งานนี้ทั้ง "รศ.มานพพราหมณโชติ "อธิการบดีมจษ.รศ.พรผจงเลาหวิเชียร ผู้อำนวยการวิทยาลัยการแพทย์ทางเลือกมจษ.และผศ.นุชรินทร์ศศิพิบูลย์ ต่างยิ้มแก้มปริไปตามๆ เพื่อคอยให้การต้อนแขกที่มาเยี่ยมชม เพราะต่างก็ "ทึ่ง" แพทย์จีนจันทรเกษมทำได้ไงเนีย! โดยเฉพาะผศ.พิทักษ์อาจคุ้มวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงถึงกับออกปากชม เลยนะขอบอก!
00มรภ.ธนบุรี จัดโครงการสืบสานภูมิปัญญาไทยครั้งที่ 1 อบรมเชิงปฏิบัติการสาธิตและการสอน ประดิษฐ์หัวโขน ให้กับอาจารย์ เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผู้สนใจติดต่อสอบถาม โทร.02-890-1801 ต่อ 2141ในวันที่ 9-10 ,16-17 ส.ค.50 นี้
http://www.komchadluek.net
ประกาศ : ทุนการศึกษาของ นทร. โครงการฯ รุ่่น 1-2
สำนักงานผู้ดูุแลนักเรียนในประเทศฝรั่งเศส (สนร.) ขอประชาสัมพันธ์ จดหมายชี้แจงจาก กลุ่มการศึกษาและฝึกอบรมในต่างประเทศ สำนักงาน กพ. ลงวันที่ 15 มีนาคม 2550 เรื่อง กระแสข่าวเกี่ยวกับทุนการศึกษา ของ นักเรียนทุนรัฐบาลโครงการ ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1- 2
จึงขอแจ้งให้ นทร. ทุกท่านทราบสถานการณ์ ข้อเท็จจริง และ แนะนำแนวทางปฏิบัติ ดังเอกสารที่แนบมานี้
จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
Click here to views the document (PDF)
สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนในประเทศฝรั่งเศส
18 มิถุนายน 2550
http://oeaparis.free.fr
"วิจิตร"ย้ำให้ทุนท้องถิ่นต้องเลี่ยงภาษาอังกฤษ
อนุมัติทุนพัฒนาท้องถิ่นเรียนต่อ วิศวกรรมศาสตร์ชั้นสูงในฝรั่งเศส
www.moe.go.th
กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--พิมพ์ไทย
“สุรยุทธ์” สั่ง ศธ.พับทุนเรียนหวยประชานิยมยุคทักษิณ
ผู้จัดการออนไลน์ 13 มิถุนายน 2550 02:25 น
ศธ.ตั้งเป้าคัดเด็กหัวกะทิเรียนทุนรุ่น 3
www.moe.go.th
นร.ทุนไทยสร้างชื่อในฝรั่งเศส ทำคะแนนสูงสุดหลักสูตรวิศวะอัจฉริยะ
ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2550
เผยทุนอำเภอรุ่น 3 เน้นชาติไม่ใช่ ภ.อังกฤษ
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศที่คณะกรรมการโครงการฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่จะส่งนักเรียนไปศึกษาต่อ ประกอบด้วยสายสามัญฯ กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Agriculture ได้แก่ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ แคนาดา (ควิเบค) ฟินแลนด์ รัสเซีย Fishery ได้แก่ ญี่ปุ่น แคนาดา (ควิเบค) Food Science ได้แก่ ฝรั่งเศส ออสเตรีย ญี่ปุ่น Vehicle Engineering ได้แก่ เยอรมนี ญี่ปุ่น Information Technology ได้แก่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฟินเลนด์ Packaging ได้แก่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น กลุ่มการบริหารและการจัดการ Natural Resource and Environmental Management ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สเปน ญี่ปุ่น แคนาดา (ควิเบค) Logistics Languages ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี Islamic studies ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ ส่วนสายอาชีวศึกษาจะเน้นกลุ่มสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ด้านเกษตรและอาหาร ได้แก่ รัสเซีย อิสราเอล สเปน อิตาลี ด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน ด้านสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง ได้แก่ อิตาลี บราซิล จีน ด้านเหล็กและเหล็กกล้า แม่พิมพ์ยานยนต์และชิ้นส่วน ได้แก่ รัสเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน ด้านผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ ได้แก่ อิตาลี จีน ด้านปิโตรเคมี วัสดุ อัญมณี เซรามิก ได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย ญี่ปุ่น รัสเซีย จีน.
www.dailynews.co.th
รมว. ศธ. เยี่ยมนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2550ณ ประเทศฝรั่งเศส
ในระหว่างการเดินทางไปประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ครั้งที่ 176 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ศาสตราจารย์ ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปเยี่ยมนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ที่เลือกศึกษาต่อ ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันกลุ่มนักเรียนดังกล่าว จำนวน 45 คน ที่เมืองเลอมองส์ (Le Mans) ของกรุงปารีส เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2550 เป็นนักเรียนรุ่นที่ 1 จำนวน 15 คน และรุ่นที่ 2 จำนวน 30 คน นักเรียนทุนโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ดังกล่าวกำลังศึกษา อยู่ที่สถาบัน IUT (Institut Universitaire de Technologie) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่จัดตั้งขึ้น เมื่อปี 1966 มีลักษณะเฉพาะคือ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร โดยกำหนดหลักสูตรและฝึกให้นักศึกษาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็น การฝึกฝนด้านปฏิบัติ ปัจจุบันมีสถาบัน IUT ในฝรั่งเศส จำนวน 115 แห่ง ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่ที่จบจาก IUT 2 ปี หากประสงค์จะเรียนต่อระดับปริญญาก็สามารถกระทำได้ ทั้งระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท ทั้งนี้หากสอบเข้า Grand ecole ได้ก็จะเรียนต่ออีก 3 ปี ก็จะได้รับปริญญาโท (นักศึกษา 20% ของผู้จบอนุปริญญาที่ IUT จะทำงานทันที 30% จะเรียนต่ออีก 1 ปี เพื่อรับปริญญาตรี ส่วนอีก 50% จะศึกษาต่อระดับปริญญาโทต่อไป) ปัจจุบันนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1 ที่สอบผ่านการเรียนภาษา และเข้าศึกษาใน IUT มีจำนวน 69 คน รุ่นที่ 2 กำลังเรียนภาษาอยู่ จำนวน 182 คน ปัญหานักเรียนไทยคือ กระบวนการคิดและการปรับตัว ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตาม นักเรียนทุนรุ่นที่ 1 ส่วนหนึ่งที่กำลังศึกษาที่ IUT มีผลการเรียนอยู่ในระดับเป็นที่น่าพึงพอใจ
http://www.moe.go.th
http://thailemans.online.fr
ก.พ. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันรับทุนรัฐบาล
ผู้มีสิทธิ์สมัครสอบแข่งขันรับทุน ต้องเป็นผู้มีอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันที่ 23 มีนาคม 2550 และกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรระดับปริญญาตรี หรือเป็นผู้ได้รับปริญญาตรี และมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 3.00 (ยกเว้น สาขาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัชศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00) หรือเป็นผู้ได้รับปริญญาโท ประกาศนียบัตรเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 3.00 ต้องไม่ได้รับปริญญาโท ที่มีวิชาเอกเน้นทางเดียวกับทุนที่จะไปศึกษา และมีอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร
ผู้ประสงค์เข้าสมัครคัดเลือกสามารถดูรายละเอียดได้ที่ศูนย์ข่าวการสอบ สำนักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก ศูนย์ข่าวการสอบ สำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ หรือสำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธา สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
และทาง เว็บไซด์ของสำนักงาน ก.พ.
http://www.ocsc.go.th/, http://scholar.ocsc.go.th/
เว็บไซด์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
http://stscholar.nstda.or.th/
รูดม่านประชานิยม “ทักษิณ” อีก ปิดฉาก “1 อำเภอ 1 ทุน” เปลี่ยนชื่อใหม่ ใช้งบน้อยลง
ผู้จัดการออนไลน์ 1 มีนาคม 2550
เตรียมยกเลิกทุนหวย เชือดก่อน “ทุนเรียงความ”
ผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2550
ศธ.เลิกส่งนักเรียน 1 อ.1 ทุน ติวเข้มในสิงคโปร์ชะลอความร่วมมือด้าน กศ.
ผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2550
ศธ.เดินหน้าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนต่อ
รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่า จะมีการเปลี่ยนเกณฑ์ ผู้ที่จะได้รับทุนในรุ่นที่ 3 โดยยึดเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยผู้ที่จะได้รับทุนครอบครัวจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 150,000 บาท จากเดิมที่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนการจัดสอบเพื่อให้มีความโปร่งใส ก็จะมอบให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นผู้ดำเนินการ เพราะถือเป็นหน่วยงานกลางและเป็นผู้ทำข้อสอบได้หลายลักษณะ ทั้งนี้ในรุ่นที่ 3 นี้จะมีการกำหนดสาขาที่เป็นความ ต้องการของประเทศ และเลือกให้ไปเรียนในประเทศที่เก่งในสาขาเหล่านั้นด้วย ส่วนรุ่นที่ 1-2 ซึ่งไปศึกษาต่อแล้วนั้น ก็จะมีการสำรวจว่าสาขาที่ไปเรียนนั้นในแต่ละท้องถิ่นมีโอกาสในการทำงานสาขาวิชาเหล่านี้อย่างไร นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่าควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะส่งเด็กไปศึกษาต่อต่างประเทศอย่างน้อย 3-6 เดือน และใช้เวลาในช่วงนี้เป็นการทดสอบไปด้วย ซึ่งถ้าเห็นว่าเด็กไปไม่ไหวก็จะไม่ส่งไปเรียน เพราะไม่อยากให้ปัญหาเกิดขึ้นเหมือนรุ่นก่อนๆ เช่น ฆ่าตัวตาย โดยเมื่อส่งเด็กไปเรียนแล้วก็จะต้องมีการติดตามผลโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากพบว่าเรียนไม่ไหวก็ให้ส่งกลับทันที หรือพบว่ามีปัญหาก็ให้รีบเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ปล่อยให้เป็นปัญหาอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนในอดีต.
ไทยรัฐออนไลน์ 5 มกราคม 2550