นร.ทุนแค่คนเรียนม.ดัง ที่เหลือกว่าเรียนม.ปานกลาง

เว็บไซต์คมชัดลึก - ก.พ.สำรวจพบนักเรียนทุน1 อำเภอ 1 ทุน หรือ เด็กโอดอสรุ่นแรก ส่วนใหญ่เข้าเรียนได้ในมหาวิทยาลัยระดับปานกลาง มีเพียงแค่ 100 กว่าคนจาก 628 คนที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้ เตรียมชงข้อมูลเข้าที่ประชุมบอร์ดโครงการ 1 ทุน1 อำเภอ12 ต.ค. ศกนี้เพื่อผ่าตัดโครงการ 1 ทุน1 อำเภอรุ่น 3 ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น

ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ตุลาคม2550 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ที่เปลี่ยนชื่อมาจากโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่ ศ.ดร.วิจิตรศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มอบให้หน่วยงานไปสำรวจมาเพื่อนำมาปรับปรุงเงื่อนไขการให้ทุน 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นที่ 3 ให้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นและตอบคำถามของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้ให้ข้อสังเกตไว้ในเมื่อครั้งที่ศธ.เสนอโครงการนี้ขอความเห็นชอบจากครม.

ปลัดศธ. กล่าวต่อว่าข้อมูลหลักที่ รมว.ศธ.ต้องการนั้นได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปสำรวจว่านักเรียนโครงการ 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นที่ 1 ซึ่งเลือกเรียนต่อต่างประเทศรวม628 รายนั้นสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอันดับใดของแต่ละประเทศ เพราะ รมว.ศธ. ต้องการให้นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เก่งในแต่ละสาขาได้จริงๆเพื่อคุ้มกับทุนนี้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

ทั้งนี้ทาง ก.พ.ได้ไปสำรวจและส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้ศธ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า นักเรียน 1 อำเภอ1 ทุนรุ่นแรก ที่ไปเรียนต่อใน 18 ประเทศส่วนใหญ่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับกลาง มีประมาณ 100 กว่ารายที่สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับดีซึ่งก็คือมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับต้นๆของประเทศนั้นๆ

อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศมีสัดส่วนนักเรียนทุน 1 อำเภอ ที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่อันดับดีแตกต่างกัน อย่างนักเรียน 1 อำเภอ1 ทุนของประเทศญี่ปุ่นจำนวนทั้งหมด 119 คนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ถึง 112 คน

ทั้งนี้เมื่อแต่ละหน่วยงานนำเสนอข้อมูลที่ รมว.ศธ.มอบหมายให้ไปสำรวจมาแล้วก็จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงเงื่อนไขและเกณฑ์การรับทุนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น หลังจากนั้น ศธ.จะสรุปเรื่องโครงการ1 อำเภอ1 ทนรุ่น 3 ขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)

รายงานข่าวแจ้งว่าศ.ดร.วิจิตร มีนโยบายให้นักเรียนทุนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ในรุ่นต่อไป เน้นเรียนสาขาที่ประเทศชาติต้องการนำมาใช้พัฒนาประเทศ ไม่ใช้เงินทุนสูญเปล่า หรือเรียนในสาขาที่ประเทศชาติไม่ต้องการหรือมีคนล้นงานอยู่แล้ว คาดว่าในการประชุมวันที่ 12 ตุลาคมนี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น


http://www.komchadluek.net

0 ความคิดเห็น: