นักวิชาการยำ 1 อ.1 ทุน ชี้ลงทุนสูง ผลตอบแทนต่ำ

“สมพงษ์” ติงโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ใช้งบสูง แต่ผลตอบกลับมาสู่สังคมต่ำ ไม่มีแนวทางให้เด็กทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่น ส่วนสาขาที่ส่งไปศึกษายังต่างประเทศยังไม่คำนึงถึงความต้องการของประเทศ เชื่อรัฐฟื้นหวย 2 ตัว 3 ตัว นำเงินกลับมาใช้ ฝากรัฐหากฟื้น 1 อำเภอ 1 ทุน ให้สรรหาคณะกรรมการคัดเลือกให้ดี อย่าให้การเมืองแทรกแซง

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายที่ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐบาลปัจจุบันจะสานต่อโครงการในรุ่นที่ 3 เพราะถือเป็นจุดขายอันดับ 1 ของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นนโยบายประชานิยมทางการศึกษาที่ชัดเจนมาก แต่ก็เป็นนโยบายที่ให้โอกาสเด็กยากจนได้เรียนต่อในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณลงทุนที่สูงมาก แต่ผลตอบรับที่ตอบกลับมาให้สังคมค่อนข้างต่ำ เนื่องจากการดำเนินโครงการในรุ่นที่ 1-2 รัฐบาลไม่ได้หาแนวทางรองรับสำหรับเด็กที่จบมาแล้วว่า หากจบมาแล้วจะทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่นของตนเองได้อย่างไร ขณะเดียวกัน สาขาวิชาที่ส่งให้เด็กไปศึกษาต่อ ก็มีความเข้มข้นน้อย เนื่องจากให้เด็กเป็นผู้เลือกคณะและประเทศที่ต้องการเอง โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ และความต้องการของประเทศ เช่น ส่งนักเรียน 1 ทุน 1 อำเภอ จำนวนประมาณ 40-50 คน ไปเรียนคณะบริหารการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งที่ประเทศไทยสามารถจัดการเรียนการสอนด้านนี้ได้ดีกว่า นอกจากนั้นก็ไม่มีการติดตามผลการดำเนินงานที่จริงจังเพียงพอ

“โครงการ 1 ทุน 1 อำเภอที่ผ่านมา มาตรฐานค่อนข้างย่อหย่อน และขาดการเอาจริงเอาจัง เด็กที่ไปเรียนจะรู้สึกเพียงว่าตัวเองสมหวังตามความต้องการที่อยากไปเรียนในต่างประเทศ แต่จะไม่ให้ความสำคัญกับการเรียนเท่าใดนัก ดังนั้น การให้ทุนจึงควรมีการกำหนดให้ชัดเจนว่าจะส่งไปในสาขาและประเทศใดบ้าง เพื่อให้นักเรียนได้นำความรู้กลับมาใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของตนเองได้ ไม่ใช่เปิดกว้างเกินไปอย่างที่ผ่านมา มิเช่นนั้นจะเป็นโครงการประชานิยมที่สร้างภาพ และคุณภาพการบริหารจัดการที่ตกต่ำ”

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลปัจจุบันยืนยันที่จะสานต่อโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอในรุ่นที่ 3 ก็ควรที่จะศึกษาถึงข้อดี และข้อเสีย รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการในรุ่นที่ 1-2 เพื่อมาพิจารณาว่าจะต้องมีการปรับปรุงในส่วนใดบ้าง ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณที่จะนำมาสนับสนุนโครงการนั้นไม่น่ามีปัญหา เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องรื้อฟื้นสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว กลับมา และนำมาเงินมาใช้กับโครงการนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลสรรหาคณะกรรมการที่จะคัดเลือกผู้มารับทุนให้เหมาะสม อย่าให้ตกเป็นเหยื่อของนักการเมือง เพราะคนเหล่านี้จะพร้อมปฏิบัติตามความต้องการของนักการเมือง และจะส่งผลให้เด็กที่ได้รับทุนไม่ใช่เด็กที่ยากจนจริงๆ จะกลายเป็นเด็กทุนตัวปลอมที่แย่งโอกาสคนอื่น

ที่มา : http://manager.co.th

0 ความคิดเห็น: