กรณีศึกษาเงินกำไรจากหวย

กรณีศึกษาเงินกำไรจากหวย
คืนสู่สังคมหรือเอื้อประโยชน์การเมืองแน่ ?
สถาบันพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช)
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สสส.)
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2548 เวลา 13.00 น.
ณ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถ.สามเสน ตรงข้าม รพ. วชิระ
วิทยากร
รศ. ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์อดีตสมาชิกสภาที่ปรึกษา ฯ ผู้ทำวิจัยเรื่องเงินนอกระบบและธุรกิจการพนัน
ผู้แทนกระทรวงการคลัง
ผศ. ดร. ศิรินันท์ กิติสุขสถิตสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณวราฤทธิ์ พาณิชกิจโกศลกุล ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณธีรชาติ ปางวิรุฬรักษ์ส.ส. จังหวัดชุมพร เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์
สังศิต"จี้ปฏิรูป"กม." เปิดข้อมูลใช้เงินหวย
"สังศิต"ชี้กองสลากฯมีปัญหาธรรมาภิบาล ผอ.ใกล้ชิดการเมือง มีโอกาสเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนได้ จี้ปฏิรูป กม.ให้เปิดเผยข้อมูลการใช้เงินที่ได้จากการขายหวย
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดให้มีการเสวนาเรื่อง "กรณีศึกษาเงินกำไรจากหวย คืนสู่สังคมหรือเอื้อประโยชน์การเมืองแน่?" ขึ้นที่สมาคม ทั้งนี้ สมาคมนักข่าวฯได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงการคลังเข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ด้วย แต่กระทรวงการคลังไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแต่อย่างใด
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตรองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ส่วนของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(กองสลากฯ) ขณะนี้มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล เนื่องจากผู้อำนวยการกองสลากมีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง และส่วนของพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ซึ่งใช้บังคับมานาน ก็เอื้อประโยชน์ให้กองสลากฯไม่ต้องนำส่งเงินกำไรให้รัฐ ทั้งนี้ รายได้ของกองสลากฯปัจจุบัน คาดว่ามีประมาณ 33,624-38,324 ล้านบาทต่อปี โดยมาจากสลากบำรุงการกุศลที่คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 4,224 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเงินกำไรจากหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ที่เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 สิงหาคม 2546 เป็นต้นมา เฉลี่ยแล้วมีกำไรงวดละ 700-800 ล้านบาท จนถึงขณะนี้มีกำไรรวมประมาณ 29,400-33,600 ล้านบาท ซึ่งเงินที่นำมาไว้ที่กองสลากฯจะมีประมาณ 384 ล้านบาทต่อปี โดยผู้อำนวยการกองสลากฯสามารถเซ็นเช็คเบิกจ่ายได้ครั้งละไม่เกิน 3 แสนบาท และปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการหรือประธานบอร์ดกองสลากฯ มีอำนาจในการเซ็นครั้งละไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งอาจจะมีโอกาสเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนได้
"การแต่งตั้งผู้อำนวยการกองสลากฯ มีโอกาสเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนได้ เพราะเป็นเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกับผู้มีอำนาจ ซึ่งช่วง 4 ปีที่ผ่านมามีการใช้ทรัพยากรของกองสลากฯให้กับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองพรรคเดียวหรือไม่ การเปิดเผยข้อมูลตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ" นายสังศิตกล่าว
นายสังศิตกล่าวว่า นอกจากนี้นโยบายของกองสลากฯเน้นด้านการเมืองและธุรกิจมากขึ้น โดยขณะนี้จะมีการนำเครื่องออกสลากออนไลน์มาใช้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ค้าสลากเดิม ซึ่งเป็นคนพิการและคนยากจน การที่กองสลากฯมาแทรกแซงจะส่งผลกระทบต่อผู้ค้าสลากจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อสังคมได้ จึงอยากให้มีการพิจารณาปฏิรูปกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองสลากฯให้มีการเปิดเผยข้อมูลในการใช้เงินที่ได้จากการขายหวยให้มีความโปร่งใสมากขึ้น
ขณะที่นายธีรชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบการนำเงินจากกองสลากฯไปบริจาคให้กับวัดจังหวัดต่างๆ พบว่า มีการรั่วไหลมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการฉ้อโกง เข้าข่ายกฎหมายมาตรา 123 ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภาคอีสาน ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงอยากให้สื่อมวลชนและประชาชนแสดงความจำนงเป็นผู้เสียหายร้องเรียนให้มีการดำเนินการกับนักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้เงินของกองสลากฯมิฉะนั้นอาจเกิดเหตุการณ์วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่งที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
นายธีรชาติกล่าวว่า ทางกองสลากฯควรแก้ระเบียบในการให้ ส.ส.เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขอเงินของวัด ซึ่งในส่วนของการจ่ายเช็คให้วัดหรือสถานศึกษาควรให้หน่วยงานที่ดูแล เช่น กรมการศาสนา หรือกระทรวงศึกษาธิการ เข้ามารับทราบด้วยว่าจำนวนเงินบริจาคเป็นเท่าใด เพื่อสะดวกในการตรวจสอบ รวมทั้งอยากให้ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน สื่อมวลชนและภาคประชาชนเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะขณะนี้ได้รับการร้องเรียนว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวในอดีตหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ซึ่งที่จ.สุรินทร์ มีโรงเรียนบางแห่งโดนหักค่าหัวคิวในการนำเงินกองสลากฯมาบริจาคถึง 35%
นายวราฤทธิ์ พานิชกิจโกศลกุล อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการคำนวณทางสถิติพบว่า ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว จะประสบกับการขาดทุน หากซื้อสลาก 1 บาท จะขาดทุนในส่วนของสลากกินแบ่งประมาณ 40 สตางค์ เลขท้าย 2 ตัว ขาดทุน 35 สตางค์ เลขท้าย 3 ตัว ขาดทุนประมาณ 50 สตางค์ ซึ่งผู้ได้ผลประโยชน์ก็คือกองสลากฯ
นางศิรินันท์ กิตติสุขสถิต นักวิจัยจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งวิจัยโครงการติดตามประเมินผลโครงการ หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน จากรายได้ส่วนเกินของการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว กล่าวว่า จากการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ให้สัมภาษณ์ระบุไปในแนวทางเดียวกันว่านโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายที่ดี เป็นการนำเงินของคนจนไปให้คนจน สร้างชีวิตใหม่ และขณะนี้ยังไม่พบว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องของการคัดเลือก แต่ในอนาคตต้องดูว่าการกระจายเงินไปสู่เด็กในแต่ละอำเภอจะมีความทั่วถึงมากน้อยเพียงใด และจะมีการใช้ประโยชน์จากเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนจากโครงการมากน้อยเพียงใด
หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 22 พฤษภาคม 2548

0 ความคิดเห็น: